จักรวาลคู่ขนานหรือโลกคู่ขนาน เป็นเรื่องราวที่ชาวโลกเราพูดคุย ถกเถียงกันมานานหลายปี นักวิจัยหลายกลุ่มพยายามค้นหาความจริงมาเรื่อยๆ บ้างก็มีการนำทฤษฎีต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อหาความเป็นไปได้ของจักรวาลคู่ขนาน แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าจักรวาลคู่ขนานนั้นมีอยู่จริง การรับชมภาพยนตร์แนว “ไซไฟ” ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจากมิติทางไปยังอีกมิติ ถึงแม้เราจะรู้ดีว่ามันคือจินตนาการที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่บางครั้งมันก็อาจทำให้เราเกิดความรู้สึกและมีความเชื่อเล็กๆ ว่า จักรวาลคู่ขนานอาจจะมีอยู่จริงก็ได้ ถึงอย่างไรก็ตามแต่ เราจะสามารถมองเห็นมันได้จริงไหม หรือจะเป็นเพียงแค่จินตนาการของมนุษย์เท่านั้น แล้ววิทยาศาสตร์จะสามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ ลองตามไปอ่านบทความนี้กันดู
ถ้าจะพูดถึงความหมายของจักรวาลคู่ขนาน ตามแนวคิดจากการสมมติฐาน อาจกล่าวได้ว่าจักรวาลคู่ขนาน คือ เอกภพ (จักรวาล) ที่มีจำนวนมากมายมหาศาล มันจะเกิดขึ้นพร้อมกับสลายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าจักรภพของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยจะประกอบไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นจริงทางกายภาพ อาทิ พลังงาน โมเมนตัม อวกาศ รูปแบบทุกชนิดของสสาร รวมไปถึงกฎทางฟิสิกส์ ทฤษฎีทางฟิสิกส์ ค่าคงที่ต่างๆ สำหรับทฤษฎีทางฟิสิกส์จะแบ่งออกเป็น 3 ทฤษฎีด้วยกัน ดังนี้ ทฤษฎีเอกภพขยายตัว ,ทฤษฎี dark matters (สสารมืด) , ทฤษฎี String Theory
ตัวอย่างทฤษฎีต่างๆ บางส่วนที่ถูกนำมาใช้พิสูจน์เกี่ยวกับจักรวาลคู่ขนาน เช่น
- quantum parallel universe (จักรวาลคู่ขนานแบบควอนตัม) ถูกพัฒนาโดยนักฟิสิกส์ที่มีชื่อว่า Dr.Hugh Everett ทฤษฎีควอนตัมถูกดึงมาใช้แก้ปัญหาทางเทคนิค ในการมีอยู่ของจักรวาลคู่ขนาน โดยการวัดสำหรับควอนตัน จะมุ่งเน้นไปในเรื่องโอกาส ความเป็นไปได้เกี่ยวกับความจริงของทุกสิ่งทุกอย่าง กล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือเรื่องราวใดๆ ก็ตามที่อาจมีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทาง มันก็ต้องเกิดเหตุการณ์ในทางกลับกัน หรือทิศทางตรงข้ามขึ้นมาเสมอ ตามด้วยการแตกตัวอย่างไม่รู้จบ อย่างเช่น เมื่อเราขับรถออกจากบ้านไปเจอทางแยกขวา-ซ้าย จนต้องตัดสินใจเลือกไปทางใดทางหนึ่ง หากในโลกจริงเราเลือกไปทางขวา ในจักรวาลคู่ขนานก็จะเลือกทิศทางตรงข้ามกัน ก็คือทางซ้าย แน่นอนว่าการสรุปออกมาแบบนี้ มันทำให้มีคำถามตามมามากมาย เช่น ถ้าเกิดเราสามารถย้อนเวลาไปยังอดีตเพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดพลาดให้ถูกต้อง ในอนาคตของเราจะถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ก็คงตอบได้ว่าไม่เปลี่ยน เนื่องจากทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ จะเกิดเหตุการณ์ในทิศทางตรงข้ามเสมอตามทฤษฎีควอนตัม เพราะมันเป็นจักรวาลคู่ขนานกับเรานั่นเอง
- เหล่านักวิทยาศาสตร์จากองค์กรนาซ่า เคยพบเจอกับปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่า จักรวาลคู่ขนานอาจมีอยู่จริง และเวลาสามารถเดินย้อนหลังได้ โดยเหตุการณ์มีอยู่ว่า กลุ่มนักวิจัยของนาซ่าในแอนตาร์กติก ได้ร่วมกันทำวิจัยในปฏิบัติการ ที่ชื่อว่า “antarctic impulsive transient antenna” ซึ่งในขั้นตอนปฏิบัติการนั้น พวกเขาต้องการสแกนหาคุณลักษณะของเทหวัตถุนอกโลก อาจปรากฏขึ้นในผิวน้ำแข็งขั้วโลกใต้ จึงได้นำบอลลูนติดเสาอากาศ เพื่อใช้ทำการสแกนหาอนุภาคพลังงานสูง อย่างไรก็ตามกลุ่มนักวิจัยได้ทดลองปฏิบัติตัวนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบอะไรเลย ก่อนที่ภายหลังจะได้ลองทำการทดสอบสัญญาณที่ถูกมองข้ามไป จนทำให้พบกับสัญญาณอนุภาคพลังงานที่สูงกว่าปกติ สิ่งที่แปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ สัญญาณไม่เหมือนอนุภาคพลังงานทั่วไป แต่มีภาพรวมคล้ายกับการพุ่งจากโลกไปสู่อวกาศ จากนั้นทีมนักวิจัยดังกล่าว ได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นนี้ออกสู่ชาวโลก พร้อมกับนำทฤษฎีต่างๆ รวมถึงหลักฟิสิกส์มาอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่พบครั้งนี้ด้วย แต่ว่าก็ไม่มีทฤษฎีใดสมเหตุสมผลเลย
สุดท้ายสามารถสรุปได้ว่า เรานั้นไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจักรวาลคู่ขนานมีอยู่จริงหรือไม่ เพราะไม่มีการพิสูจน์ได้จริง แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์หลายคนยังผ่านการทดสอบมาแล้ว แต่มันก็ยังเป็นแนวคิดทฤษฎีที่ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้คงทำได้แค่รอเวลาให้การทดสอบเห็นผลได้แท้จริง หรือถ้าจักรวาลคู่ขนานมีอยู่จริง ความเป็นไปได้ก็คงจะมีลักษณะทิศทางตรงข้ามกับจุดที่เราอยู่อย่างที่เขาว่านั่นแหละ